หากคุณกำลังมองหาหนังสือเตรียสอบ Ielts ดีๆสักเล่ม ซึ่งในท้องตลาดมีหลากหลายให้เลือกจนตัดสินใจไม่ถูก วันนี้เราได้รวบรวมเล่มที่ดีที่สุดจากความเห็นของชาวพันทิปมาให้ตัดสินใจกัน เราได้รวบรวมหลายๆกระทู้ที่มีการรีวิวการสอบ จนกระทั้งการเตรียบตัวสอบ มาให้ชมกัน
1) The Official Cambridge Guide to IELTS
ไม่ให้กล่าวถึงเล่มนี้คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะมีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง ทั้งในและนอกประเทศ เพราะเป็นหนังสือของเจ้าของสำนักเป็นคนออกข้อสอบเอง เล่มนี้จะมีทั้งการแนะนำทริกและเทคนิคต่างๆและวิธีการทำอย่างละเอียดเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนทักษะ การฟัง พูด อ่าน เขียน ทุกๆอย่างที่คุณต้องรู้ในการทำข้อสอบ หากถามว่าเหมาะกับใครก็คงตอบได้ว่าเหมาะกับทุกคนที่กำลังเตรียมสอบและหนังสือเล่มนี้ก็ยังครอบคลุมทั้งในส่วนของ Academic และ General เพราะบอกได้เลยว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มพื้นฐานที่ทุกคนต้องมีและควรซื้อเก็บไว้อ่านอย่างยิ่ง ทบทวนก่อนลงสนามสอบจริง (เว็บเรามีรีวิวเอาไว้ด้วยคลิกเพื่ออ่าน)
ความเห็นชาวพันทิป
ได้กล่าวว่า “อยากแนะนำเล่มนี้มากๆ เลยค่ะ ถึงต้องมาอัพเดทข้อมูลหนังสือในรีวิวกันเลยทีเดียว เพราะว่าอ่านง่ายมากและเรียบเรียงข้อมูลได้ดี ทำความเข้าใจง่ายมาก ราคาไม่แพง เราได้เข้าไปดูที่เว็บ kinokuniya oneline ราคาเล่มละ 585 บาทค่ะ (ถ้าให้เลือกระหว่างเล่มนี้ กับ Barron เราคิดว่าเล่มนี้ดีกว่า Barron) เข้าใจง่ายและเนื้อหาอัพเดทกว่าด้วย เล่มนี้ดีจริงๆ “
ชาวพันทิปบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอ่านง่าน เข้าใจง่ายใช้วิธีการเรียบเรียงเนื้อหาได้ดีเหมาะกับคนที่พึ่งเริ่มต้นสอบ ไปจนถึงใกล้สอบ เนื้อหาแบ่งตามทักษะ มีข้อสอบให้ฝึกทำถึง 8 ชุดที่สำคัญมีไฟล์เสียงแถมให้ด้วยมีแอปของ Cambride ที่เป็นตัวข้อสอบจริงๆให้ทำเพิ่มเติม
เจ้าของกระทู้หมายเลข 5948078 ได้รีวิวหนังสือที่ตัวเองใช้สอบก่อนไปสอบ IELTS และยังได้ฝึกทักษะ Listening และ Reading ในหนังสือโดยได้กล่าวว่า “สำหรับเรา Part นี้เราฝึกฝนจาก หนังสือ The official cambridge guide to ielts และ Cambridge ielts เล่ม 1-12 และช่อง youtube ที่เราฝึกการฟังพยายามฟังแค่รอบเดียวไม่ย้อนฟังหลายๆรอบ เพราะ การสอบจริงเราสามารถฟังได้แค่ 1 รอบเท่านั้นผ่านแล้วผ่านเลย ถ้าตรงไหนที่ฟังไม่ทันให้ข้ามไปข้อต่อไปเลย ไม่หยุดแค่ข้อที่เราไม่ได้ และถ้าฟังจบแล้วเช็คข้อถูกผิดและลองดู Band score IELTS Listening ว่าเราได้ Band ไหนและเราผิดพลาดจุดไหนมากที่สุดก็แก้ไขจุดนั้น แบบบางคำเรา Spelling ผิดก็ฝึกคำนั้นให้คล่องหรืออบางคำเช่น Examiners แต่เราลืม S ข้างหลังก็ถือว่าเราผิด ดังนั้นเราต้องฟังดีๆและมีสมาธิในการฟังให้มาก เพราะถ้าหลุดแล้วก็จะหลุดไปเลย”
และในส่วนของ Reading นั้นเอง
“เราฝึกแค่ในหนังสือ The Official Cambridge Guide to IELTS และ Cambridge IELTS เล่ม 1-12 แบบจับเวลาตามเวลาจริงที่จะต้องสอบเลยนะ เพราะเราจะได้แบ่งเวลาและคำนวนเวลาของตัวเองถูก Part (ส่วน) นี้เราต้องรู้ Vocab (คำศัพท์) เยอะๆเลยเพราะเราจะได้เข้าใจว่าใน Passages (ย่อหน้า) ที่ให้มาพูดถึงเรื่องอะไร และพอทำแบบฝึกหัดเสร็จเราก็ไปเช็ค Band score IELTS reading ว่าเราได้ Band ไหนสำหรับเรา เราว่า Part (ส่วน) นี้ค่อนข้างยาก เพราะมีคำศัพท์บางคำที่ยากและแปลไม่ค่อยได้”
2) Cambridge IELTS 1-16 Academic
ใครที่คาดหวังว่าหนังสือชุดนี้จะรวมรวบเนื้อหาและเทคนิคต่างๆ เหมือนเล่มบนก็เลิกคาดหวังไปเลย เพราะ Ielts academic series 1-16 เป็นเพียงข้อสอบไว้ฝึกทำ ในเล่มจะประกอบไปด้วยข้อสอบทั้ง 4 Part รวมถึงคำอธิบายและเฉลยอย่างละเอียด การคำนวนคะแนนสอบและบอกได้เลยว่าพลาดไม่ได้ เพราะเป็นเล่มที่ผู้สอบทุกคนควรทำอย่างน้อย 1 ชุด เพราะหนังสือชุดนี้ออกโดยเจ้าสำนักโดยตรง หากอยากทดสอบหาจุดผิดพลาดของตนเอง เล่มนี้ก็ไม่ควรพลาด
ทราบหรือไม่:
นอกจากจะมี Cambridge ielts 1-16 Academic และยังมี Cambridge ielts 1-16 สำหรับ General ด้วย ความแตกต่างของทั้งสองชุดคือ ชุดที่เป็น Acedemic จะเน้นทำข้อบสอบสำหรับเรียนต่อ,เพิ่มคะแนน ส่วนชุด General จะเน้นเพียงการยื่นสมัครงานและยื่นขอ VISA
ความเห็นชาวพันทิป
ชาวพันทิปแนะนำว่าข้อสอบของ cambride สามารถหาทดลองดาวน์โหลดมาทำได้ทั่วไปในอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้เธอยังบอกด้วยว่าความยากคล้ายๆข้อสอบจริง โดยเฉพาะ Part Listening ที่มีสคริปต์ มาให้ด้วย สรุปคือเธอเริ่มอ่านจาก Barron เพื่อปูพื้นฐานเพื่อศึกษารายละเอียดเบี้ยงต้น และจากนั้นอ่า
เป็นเรื่องราวของเจ้าของกระทู้หมายเลข ที่มาแชร์ประสอบการณ์สอบ IELTS ให้ได้ Band 6 ฉบับคนอ่อนภาษาอังกฤษ คนทำงานไปด้วยก็สามารถนำมาประยุต์ใช้ได้จริง “ส่วนของ Listening ส่วนนี้สำหรับเราง่ายสุดและเป็นตัวช่วยดึงคะแนนได้ดีโดยข้อสอบของพาร์ทนี้จะแบ่งเป็น 4 พาร์ทย่อย เริ่มจากง่ายไปยากแนะนำให้เก็บคะแนนช่วงข้อที่ 1-25 ให้เยอะๆ ระวังเรื่องแกรมม่า การเติม S ต่างๆ รวมถึงข้อสอบหลอกต้องตั้งสติดีๆห้ามหลุด ถ้าไม่ได้ให้ข้ามเลย ตามสิ่งที่เทปกำลังเปิดอยู่ให้ทัน”
ส่วน Reading “พาร์ทนี้คิดว่าตัวเองจะห่วยกว่านี้ แต่คะแนนออกมาน่าพึงพอใจพอสมควรโดยอยากให้มีคลังศัพท์ Academic ติดตัวไว้บ้าง เพราะจะเป็นผลดีอย่างมหาศาลวิธีการฝึก พาร์ทนี้ยอมรับว่าเราฝึกน้อยพอๆกับ Speaking เลยก็ว่าได้โดยเราก็ใช้ Cambridge IELTS Academic เล่มเดิมนี่หละเพราะมีครบทุกพาร์ทและพยายามหา Topic (หัวข้อ) หลายๆอย่างมาฝึกทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์ สัตว์ ปรากฎการณ์ธรรมชาติ ศิลปะ และอื่นๆตอนฝึกทำคะแนนห่วยจนท้อใจ ได้ 4-4.5 อย่างมากก็แค่ 5.5 แต่พอสอบจริงปรากฏว่าได้ 6 กรีดร้องลั่นบ้านเลยจริงๆ แบบว่าดีใจมากๆ ได้คิดว่าจะได้เกินความหมาย”
3) Cambridge English IELTS Trainer
เป็นหนังสือที่รวบรวมแบบฝึกหักและข้อสอบเสมือนจริงและแทรกเทคนิค เนือหาต่างๆที่จำเป็น นอกจากนี้ยังเฉลยค่อนข้างละเอียด มีข้อสอบทั้งหมด 6 ชุดและแบบฝึกหัดอีก 2 ชุด ไว้ฝึกทำเพื่อให้เกิดความคุ้นชินในการทำข้อสอบก่อนออกสอบจริง เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานในระดับหนึ่งมาก่อนแล้ว
ความเห็นชาวพันทิป
เธอได้เล่าว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากที่ซื้อมาเพราะได้ฝึกทำข้อสอบ เพราหนังสือเล่มนี้เป็นข้อสอบล้วนๆ มีเทคนิคระหว่างการทำเป็นระยะๆ แต่ในส่วนของ Reading ค่อนข้างยากกว่ามาก ถ้าหากเปรียบเทียบกับ Cambridge IELTS 1-16 Academic ถ้าในส่วนอื่นถือว่าง่ายกว่า
นอกจากนี้ยังมีหลายๆ กระทู้ที่แนะนำเล่มส้ม ( Cambridge English IELTS Trainer )และเล่มอื่นๆที่เราได้แนะนำไว้ด้านบน เช่นกระทู้ สมาชิกหมายเลข 4117109 ได้แนะในสมาชิกท่านหนึ่งให้ซื้อเล่มนี้
คุณ Funfaith หนึ่งในสมาชิกก็แนะนำให้ซื้อ Cambridge English IELTS Trainer ถ้ามีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว
มีสมาชิกถามว่า “มีใครเคยใช้ Cambridge English IELTS Trainer บ้าง” โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันยากกว่าเล่มปกติ(ม่วงดำ) และก็เล่ม official อย่างเยอะ ใครมีความเห็นเหมือนผมบ้างแล้วก็ถ้าผมอยากจะพัฒนาทักษะทางด้านนี้ต้องทำอย่างไรบ้างคับ ผมว่าทักษะการอ่านมันยากที่สุดสำหรับผมแล้วอะ TT ปล อยากได้ส่วนนี้ 6.5 นะคับเอาไปใช้เรียนต่อ
และก็มีคนเข้าไปตอบและให้ความเห็นว่า “กำลังอ่านอยู่เหมือนกัน ค่อนข้างจะยากกว่าทุกเล่มของ Cambridge ค่ะ แต่ดีค่ะ ส่วนตัวอ่านทุกเล่มของ Cambridge แต่โอมากๆ ค่ะ”
อีกหนึ่งความเห็น จขกท สอบครั้งแรกก็ได้ 6.0 เลย
“เพิ่งสอบครั้งแรกมาสดๆร้อนๆค่ะ ได้ 6.0
อ่านเองสองอาทิตย์ ดังนี้นะคะ IELTS trainer + IELTS 1,9,8 + ฝึกเขียนใช้เว็บของ ielts-simon หาได้ใน google ค่ะ “
เรียกได้ว่าเป็นอีกเล่มที่ควรซื้อเก็บไว้จริงๆ เพราะพูดถึงกันในพันทิปเป็นอย่างมาก
4)Collins’ Grammar for IELTS
หนังสือที่เน้นไปทาง Gammar ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่แกรมม่าซึ่งมีให้อ่านกันถึง 20 บท สำหรับใครที่เกรงว่าจะได้แต่แกรมม่าอย่างเดียวนั้นก็ไม่ต้องกังวล เพราะนอกจากจะมีแกรมม่าไว้ให้ฝึกทำแล้ว ยังมีทักษะอื่นๆที่แทรกไปในแต่ละบทอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นทักษะ การอ่าน ฟัง หรือ เขียน หากกังวลว่าจะอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะทางหนังสือเองนั้นถูกออกแบบมาให้ศึกษาด้วยตนเองอยู่แล้ว ด้วยการจัด Layout ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย มีข้อความกำกับอธิบายส่วนต่างๆ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่ควรซื้อไว้ทำก่อนออกสนามจริง
ทราบหรือไม่:
หนังสือ Collins English for Exams มีด้วยกันถึง 5 เล่ม
1. Collins’ Grammar for IELTS
2. Collins’ Reading for IELTS
3. Collins’ Vocabulary for IELTS
4. Collins’ Writing for IELTS
5. Collins’ Speaking for IELTS
ความเห็นชาวพันทิป
สังคมพันทิปได้พูดถึงหนังสือ Series นี้เป็นอย่างมาก เจ้าของกระทู้หมายเลข 2394998 ได้ถามสมาชิกคนอื่นๆว่า “อยากได้หนังสือ Ielts เจ๋งๆเพื่อไปอ่านสอบไปต่างประเทศ” โดยมีเป้าหมายทั้งหมดปีครึ่ง และต้องให้ได้คะแนนระดับ 7 ขึ้นไป และหลังจากนั้นได้มีสมาชิกท่านอื่นๆได้เข้ามาแนะนำกันอย่างล้นหลาม
หลังจากนั้นได้มีสมาชิกหมายเลข 754806 ได้แนะนำ
“Collins English for exam เลยคับ
มี ทุกสกิล ให้ฝึก เน้นเรียนด้วยตนเอง
เริ่มจาก เล่ม Vocabulary ต่อด้วย Reading ไป Grammar, Writing, Speaking
ทำครบตามนี้ แบบไม่แอบดูเฉลยท้ายเล่ม ฝึกทุกวันจนจบ จะดีขึ้นอย่างชัดเจน
จากนั้น หา Cambridge IELTS Exam materials (มีตั้งแต่ ชุด 1-10 แนะนำเริ่มที่ประมาณ ชุด 6 ขึ้นไปก็ได้, 1 ชุดมี 4 tests) มาฝึกทำ
พิมพ์กระดาษคำตอบจากเวป BC มาทำเลยก็ได้ จะได้คุ้นกับการสอบ
โดยเฉพาะ Writing ซึ่งจะช่วยได้เยอะ ทำบ่อยๆ จะกะด้วยสายตาได้เลยว่า เขียนประมาณไหน ถึงจะครบ 150 หรือ 250 words
ยากหน่อย ตรง Speaking กับ Writing ที่ต้องหาคนฝึกให้
คือต้องหาคนที่ พอได้ มาจำลองสถานการณ์ มาถามแบบในวันจริงให้เราตอบ และพูด จับเวลาจริงๆ เพื่อให้คุ้นเคย และฝึก
ส่วน Writing ต้องหาคนเก่งๆ มาตรวจ อ่าน ให้คะแนนหรือ Feedback เพื่อนำไปปรับปรุง
วิธีการให้คะแนน ดูได้จากเวป BC หรือ IDP ได้ ว่าให้คะแนนอย่างไร
(ส่วนมากคนไทยมักพลาดตรง Task Achievement คือ ตอบไม่ตรงคำถามนั่นเอง)
ทำได้ตามนี้ ดีขึ้นแน่นอน
หากมีงบ จ้าง ชาวต่างชาติ สอนตัวต่อตัว จะช่วยในเรื่องการพูด และฟัง อย่างมาก และที่สำคัญจะคุ้นกับการพูด ต่อหน้าฝรั่ง ทำให้ไม่ตื่นสนามนั่นเอง”
5)Barron’s IELTS Superpack
ใครที่ต้องการเนื้อหาที่เหมาะกับคนเริ่มต้นเรียน Ielts แต่อยากเข้มข้นเก็บทุกรายละเอียดก็ต้องเป็นเล่มนี้เลย Barron’s IELTS Superpack เพราะเป็นเล่มที่หนาจริงๆ ภายในเซ็ตประกอบไปด้วย Practice Exam, Strategies, and Tips, Essential Words ซึ่งแต่ละเล่มก็มีการทีการเน้นทักษะที่แตกต่างกัน เช่นเล่ม Practice Exam เป็นเล่มที่รวมแบบฝึกหัดต่างๆไว้ฝึกทำ ส่วนเล่ม Strategies เป็นเล่มที่รวบรวมเทคนิคต่างๆไม่ให้พลาดเวลาทำข้อสอบ และเล่มสุดท้าย Essential Words เป็นเล่มที่รวบรวมคำศัพท์ที่จำเป็นและสำคัญ ความยากง่ายของทั้ง 3 เล่มนั้นจะเน้นไปทางเริ่มต้น จึงเหมาะกับผู้เริ่มต้นศึกษาข้อสอบ Ielts (ผู้ที่ไม่ควรมีพื้นฐาน)
ความเห็นชาวพันทิป
หากต้องการที่จะซื้อแต่ยังช่างใจว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ การศึกษาข้อมูลก่อนนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างเช่นกระทู้ได้มีการถามสมาชิกคนอื่นๆว่าระหว่างหนังสือของ Barron Superpack คุ้มค่าที่จะซื้อมั้ย ถ้าเทียบกับของ Longman จขกท เองก็อยากจะเก็บไว้ให้คนอื่นหลังจากที่ตัวได้สอบผ่านแล้ว
แน่นอนว่า Barron ชนะขาดลอย หนึ่งในคนที่เข้าไปได้กล่าวว่า
“เราเชียร์แบรอนส์นะคะ ที่เคยสอบโทเฟลก็ซื้อของแบรอนส์อ่าน ของลองแมนไม่เคยซื้ออ่าน เปรียบเทียบใ้ห้ไม่ถูกแต่จากการสำรวจความนิยมตอนที่เราหาหนังสืออ่านเราว่าของแบรอนส์มีชือเสียงที่สุดน่าจะคุ้มสุดค่ะ” -ซีม เด็กไทยไกลบ้าน
ขอบคุณมากเลยค่ะ..งั้นซื้อ Barron’s superpack น่าจะดีนะค่ะ-เจ้าของกระทู้